“ทำไมเป็นแบบนี้ @#%%#fgr$#@#......โหดร้ายย หน้าไม่อายยย อย่าอยู่เลย จ๊ากกกกกกก”
ตกใจใช่ไหมคะ ว่าทำไมวันนี้แม่เขียดมาดุเดือดจัง5555555 ไม่ดุเดือดไม่ได้ค่ะ เพราะวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง อาหารที่ทำให้อารมณ์ดุเดือดเลือดพล่าน!! ฟังแล้วงง...อ่านแล้วก็ยังงงใช่ไหมคะว่า อาหารหน้าตาบ๊องแบ๊วดูไร้ทางสู้ ทำให้เรากลายเป็นคนสู้คนได้อย่างไร เราไปไขข้อข้องใจกันดีกว่าค่ะ (ฮึ๊ยย๊าาาาาาา.....ยังดุเดือดไม่เลิก55)
ปัจจุบันชาวสว.หรือแม้กระทั่งคนหนุ่มสาวหันมาดูแลเรื่องอาหารการกินมากขึ้น เพราะต้องการมีสุขภาพกายที่ดี แต่หารู้ไม่ว่า การเลือกทานอาหารนี้ส่งผลต่อสุขภาพใจของเราโดยตรงค่ะ ศาสตราจารย์ Beatice Golumb, อาจารย์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบข้อสรุปของงานวิจัยที่น่าสนใจว่า “ยิ่งเราทานอาหารที่มีไขมันทรานซ์(Trans fatty acids) ที่มาจากอาหารแปรรูป ขนมหวาน และน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง มากขึ้น ยิ่งทำให้เรามีอารมณ์ก้าวร้าวมากขึ้น!!!” ที่เป็นเช่นนี้เพราะไขมันทรานซ์จะเข้าไปขัดขวางการเผาผลาญของร่างกายเพื่อนำกรดไขมัน Omega3 ไปใช้ ซึ่งเจ้า Omega3 นี้เป็นกรดไขมันที่เซลล์สมองต้องการเพื่อทำให้เรารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่านั่นเอง อย่างไรก็ตาม...ได้มีงานวิจัยเพิ่มเติมมากมายที่สนับสนุนว่า...มนุษย์ในยุคหลังอุตสาหรรมเช่นพวกเรามีพฤติกรรมการทานอาหารที่ทำให้ขาดกรดไขมัน Omega3 จึงทำให้คนรุ่นใหม่เกิดพฤติกรรมซึมเศร้าและต่อต้านสังคมมากขึ้นค่ะ
การศึกษาไม่ได้อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่กลุ่มนักวิจัยยังเข้าไปตามล่าหาความจริงในเรื่องนี้ถึงเรือนจำกันเลยทีเดียว นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง Oxford University ประเทศอังกฤษได้พบผลลัพท์ที่น่าตกใจว่า...เมื่อนักวิจัยให้นักโทษทานวิตามินรวมและกรดไขมันOmega3 เพิ่มขึ้น อัตราการเกิดอาชญากรรมหรือความรุนแรงในคุกลดลงถึงหนึ่งในสาม!! ซึ่งผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกันนี้ได้รับการยืนยันอีกครั้งในงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในความหวังของนักวิทยาศาสตร์และประชาชนทุกคนว่า....การได้รับสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ที่เพียงพอ จะทำให้สังคมเราลดความรุนแรงลง ก่อให้เกิดสังคมที่น่าอยู่ขึ้นนั่นเองค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเราทานอาหารขยะ ของทอดหรือขนมหวานแล้วจะเกิดอารมณ์ร้าย เหวี่ยงวีน ขว้างปาข้าวของในทันทีนะคะ แต่การทานอาหารที่มีไขมันทรานซ์มากๆจนติดเป็นนิสัย อาจทำให้เรามีภาวะอารมณ์ก้าวร้าวได้ค่ะ หากทุกท่านมีบุตรหลานที่ชอบทานอาหารประเภท Junk Food อาจจะต้องห้ามปรามเด็กๆบ้างนะคะ เพราะอะไรที่เข้าปากอร่อยตอนนี้ อาจไปสร้างผลร้ายในอนาคตได้ค่ะ
มาถึงตรงนี้หลายๆคนคงรู้สึกหวาดกลัวอาหารว่า ฉันกินอะไรได้บ้างนี่ หรือว่า...ฉันไม่กินอะไรเลยดีไหม?? แม่เขียดขอตอบว่า....ไม่ได้ค่ะ!!! เพราะถ้าเราปล่อยให้ร่างกายหิว สารSerotonin ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ต่างๆในร่างกายจะลดต่ำ ซึ่งจะทำให้สมองควบคุมอารมณ์ได้น้อย และมีภาวะฉุนเฉียวได้ง่าย ส่งผลให้เกิดภาวะวีนแตกวีนแตน เพราะโมโหหิวนั่นเอง 555 (ชีวิตอยู่ยากจังเลย กินนี่ก็ไม่ได้ จะไม่กินเลยก็ไม่ได้ ปวดหั๊ววว ปวดหัวว นะคะ เห้ออ)
555555555.....ชีวิตคนเราก็ไม่ได้โดนทำร้ายขนาดนั้นค่ะ เรายังทานอาหารได้ตามปกตินะคะ แต่ให้เลือกทานอาหารที่มีOmega3สูง เช่น ปลาทะเล โดยให้ทานที่เป็นปลาต้ม นึ่งหรือย่างนะคะ รวมทั้งทานผักผลไม้ให้เพียงพอ เพราะผักและผลไม้มีกากใยซึ่งจะทำให้เราขับถ่ายดี ตัวเบาลงอารมณ์ก็ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีวิตามิน B6 สูงที่จะช่วยทำให้เราอารมณ์ดีมีความสุข โดยเฉพาะกล้วยที่มีสารทริปโตเฟนสูง ซึ่งสารตัวนี้จะเปลี่ยนเป็น Serotonin ที่ช่วยในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เรานั่นเองค่ะ นอกจากการทานแล้ว การดมกลิ่นหอมๆก็ช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้นได้นะคะ แม่เขียดแนะนำเปลือกส้มหรือกลิ่นมะพร้าวค่ะ เพราะหาได้ง่าย ราคาไม่แพง และทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆจากธรรมชาติค่ะ
ช่วงนี้เพื่อนๆคงทานส้มกันอิ่มหมีพีมันส์เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทานเนื้อแล้วก็เก็บเปลือกไว้ดมหรือตั้งไว้ในห้องน้ำนะคะ ห้องจะได้หอมชื่นใจตลอดเวลาค่ะ
ด้วยรักและอารมณ์ดี
แม่เขียด เพจผู้สูงวัยใช่ไก่กา