สร้างเว็บไซต์ฟรี
ฮัลโหลลลล ไชโยโห่หิ้ววววว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คิดถึงแม่เขียดกันละเปล่าคะ แม่เขียดคิดถึงทุกคนจังเลย หายไปหลายวันแบบนี้แน่นอนว่า แม่เขียดจะต้องไม่กลับมาแบบไก่กา!!! เมื่อก้าวสู่วัย 60 กะรัต อะไรๆมันก็ไม่เป๊ะปัง ตึงเหมือนสาวๆ(ยกเว้นหูที่ตึงยังไงก็ยังตึงอย่างนั้น!!) อาหารการกินของแม่เขียดก็ต้องเปลี่ยนไป แม่เขียดเริ่มทานเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากน้อยลง และทานโปรตีนที่มาจากพืชมากขึ้น ส่วนน้องมุกลูกสาวแม่เขียด เริ่มทานมังสวิรัติมากขึ้นและหันมาทานโปรตีนจากพืชทดแทนโปรตีนจากสัตว์ ด้วยความที่เราสนใจในเรื่องเดียวกัน เราสองคนจึงจับมือกันค้นหาข้อมูลว่า การทานโปรตีนจากพืชนี้ดีหรือไม่?? และนำข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้มาเม้ามอยหอยสังข์เรื่องสุขภาพกันค่ะ
พูดถึงเรื่องโปรตีน หลายๆคนจะคิดถึงเนื้อสัตว์กันมาก่อนเลยแม่เขียดเองก็เติบโตมาจากการทานเนื้อสัตว์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัว(ในอดีต) เราเคยชินกับการทานอาหารเช่นนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ปัจจุบันเนื้อสัตว์เองก็ไม่ใช่แหล่งโปรตีนที่ปลอดภัยมากนัก เพราะในกรรมวิธีการเลี้ยงสัตว์ก็อาจมีการฉีดสารเร่งหรือสารปนเปื้อนมาในเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมาเผยแพร่ผลงานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับเนื้อสัตว์มากมาย ว่า การทานเนื้อสัตว์บางประเภทบ่อยครั้งสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่นองค์การอนามัยโลก(World Health Organization :WHO) ได้ออกมาประกาศว่า การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปหรือเนื้อแดงต่างๆ สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งต่อมลูกหมาก
คนทั่วไป(รวมทั้งแม่เขียดก่อนหน้านี้) จะมีความเชื่อว่า...แหล่งโปรตีนที่ดีและมากที่สุดคือ เนื้อสัตว์ เพราะถ้าเราทานเนื้อสัตว์อย่างหลากหลาย เราจะได้รับสารอาหารกรดอะมิโน(โปรตีนที่ผ่านการย่อยโมเลกุลแล้ว)ที่เพียงพอต่อร่างกาย รวมทั้งวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน B12,B5,B6,B7 วิตามิน A และ K ..............อันนี้แม่เขียดไม่เถียงค่ะ แต่จากการค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ หากเราหันมาทานโปรตีนจากพืชอย่างหลากหลาย เช่น ถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืช ถั่วเปลือกนิ่มชนิดต่างๆ เราก็ได้รับโปรตีนไม่น้อยไปกว่าการเลือกทานเนื้อสัตว์เลยค่ะ!! เพราะพืชหลายชนิดก็มีโปรตีนไม่น้อยไปกว่าเนื้อสัตว์ โดยความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดของคนที่ทานโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์คือ วิตามิน B12 ซึ่งเป็นวิตามินที่ไม่มีในพืชส่วนมาก แต่อย่างไรก็ตาม วิตามิน B12 นี้ สามารถหาได้จากสาหร่ายและซีเรียลต่างๆที่มีการใส่วิตามินและเกลือแร่เพิ่มเข้าไป
Andrea Giancoli นักโภชนาการอาหารที่ได้รับการจดทะเบียน ณ รัฐแคลิฟอเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า...การทานโปรตีนที่มาจากพืชนั้นดีต่อสุขภาพมากกว่าการทานโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์มากโข เพราะเมื่อเทียบกันกรัมต่อกรัมแล้ว พืชสามารถให้โปรตีนที่สูงกว่าเนื้อสัตว์ในแคลอรี่ที่ต่ำกว่า!! นอกจากนี้พืชยังมีสิ่งหนึ่งซึ่งเนื้อสัตว์ไม่มี นั่นก็คือ “กากใย(fiber)” ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการทานอาหารที่มีกากใยเป็นประจำจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี เสริมการทำงานของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ และเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนในการลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหัวใจ
โปรตีนที่มาจากเนื้อแดงไม่ได้น่ากลัว แต่ “ไขมันอิ่มตัว” ที่มักมากับเนื้อแดงต่างๆนั้นต่างหากคือ “มารร้าย” โดยเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เนื้อติดมันจะอร่อยกว่าเนื้อสันใน (โดยเฉพาะปิ้งย่าง....โฮๆๆ ร้องไห้หนักมาก) สังเกตไหมคะว่า ถ้าเรานำน้ำมันหมูไปแช่ตู้เย็น แค่แปปเดียวมันก็กลายเป็นไขแข็งๆไปแล้ว(คิดดูสิคะว่า ถ้าไขมันแบบนี้ไปอยู่หลอดเลือดเราจะน่ากลัวขนาดไหน จ๊ากกก) ไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่จะแข็งตัวในอุณหภูมิห้องและมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหัวใจ เพราะการรับประทานไขมันอิ่มตัวมากๆเข้า จะทำให้ระดับคลอเรสเตอรอลของเราเพิ่มขึ้น และในระยะยาวจะทำให้เรามีคลอเรสเตอรอลชนิดเลว(LDL :low density lipid)มาก ซึ่งเป็นไขมันตัวสำคัญที่เข้าไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจ ในขณะที่พืชต่างๆ เช่น อโวคาโด ถั่ว และเนื้อปลาจะมีไขมันอิ่มตัวที่น้อยกว่า แถมยังมีไขมันชนิดดีแถมมาด้วย!!
จากทั้งหมดนี้....หลายๆคนอาจปาดเหงื่อว่า ฉันยังจะกินเนื้อสัตว์ได้อีกไหมนี่?? โฮๆๆๆ ก็เนื้อแดงต่างๆมันอร่อยนี่นา ผู้เชี่ยวชาญและนักโภชนาการหลายท่านแนะนำว่า...จริงๆการเลือกทานอาหารที่ดีที่สุดไม่ใช่การสุดโต่งไปในทางใดทางหนึ่ง เรายังสามารถทานเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดงได้นะคะ แต่อาจจะให้ลดปริมาณลงหน่อยและพยายามเลือกทานโปรตีนที่มาจากพืชทดแทนค่ะแม่เขียดเองก็ค่อยๆปรับโดยการเริ่มทานถั่วค่ะ ทานแจมไปตามมื้อต่างๆทีละนิด จนเราชินกับรสชาติ แล้วค่อยๆลดเนื้อสัตว์ลงค่ะ อายุเยอะแล้วไม่จำเป็นต้องหักดิบนะคะ ร่างกายอาจจะมีแรงต้านได้ง่ายๆค่ะ ให้ค่อยๆทำแบบประนีประนอม ปรองดองกับร่างกายนะค้า อิอิ
ด้วยรักและสูงวัย
แม่เขียด เพจผู้สูงวัยใช่ไก่กา
