สวัสดียามเช้าค่ะเพื่อนชาวสว.(สวยทุกวัน)!!! วันนี้แม่เขียดมาพร้อมกับความรู้ดีๆในการฝึกสมองประลองปัญญากันนะคะ
วันนี้แม่เขียดมีวิธี “ปลุก” สมอง เพื่อป้องกันไม่ให้สมองฝ่อมาฝากกันค่ะ เรื่องของ “สมอง” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะเป็นอวัยวะที่ควบคุมการทำงานทั้งหมดของร่างกาย และมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพอีกด้วย ดังนั้นถ้ามีอายุมากกว่า 50 ขึ้นไป สภาวะสมองจึงจำเป็นต้องดูแลกันเป็นพิเศษนะคะ ว่าแต่...เราจะทราบได้อย่างไรว่าสมองของเราเริ่มจะฟีบ แฟบ หรือเริ่มจะฝ่อไปบ้างซะแล้ว ขอให้ลองสำรวจตัวเองก่อนเลยว่า ท่านเริ่มมีอาการเหล่านี้บ้างหรือยัง?
หลงวัน เดือน ปี จำเบอร์โทรศัพท์บ้านหรือเบอร์ส่วนตัวไม่ได้ลืมเส้นทางการเดินทางบ่อยๆ จำรายการสินค้าที่จะซื้อไม่ได้ ถอดปลั๊กไฟ หรือ ล็อคประตูบ้านไปแล้วกลับไม่แน่ใจ เป็นต้น
----------------------
ถ้าเพื่อนๆเริ่มมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทุกอย่างตามที่เอ่ยมาข้างต้น แม่เขียดขอให้อ่านข้อแนะนำต่างๆ ที่จะสามารถช่วย “ปลุก” หรือกระตุ้นเซลล์สมองให้แจ่มใสขึ้น ซึ่งถ้าทำอย่างสม่ำเสมอแล้ว จะสามารถป้องกันภาวะอัลไซเมอร์ได้ด้วยค่ะ
๑. นวดศรีษะ ตื่นเช้าขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง ให้ใช้ปลายนิ้วค่อยๆ นวด หรือกดเบาๆ ไปที่ขมับทั้งสองข้าง จากนั้นให้นวดหรือขยำนิ้วเบาๆให้ทั่วศรีษะพอถูกแล้วค่อยๆใช้มือลูบไล่ บีบ หรือนวดตัวเอง ไล่ขึ้นลงตามเนื้อตามตัวให้ทั่วเป็นการช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทพร้อมที่จะทำงาน
๒. ออกกำลังกายเบาๆ ยามเช้า หรือยามเย็น ช่วงแดดอ่อนๆ ให้เดินเท้าเปล่าเหยียบบนผืนดินบ้าง หรือเหยียบไปบนสนามหญ้าก็ได้ แล้วเดินแกว่งแขนเบาๆ หรือจะวิ่งเหยาะๆ ก็ได้ จะช่วยกระตุ้นและทำให้เลือดลมไหลเวียน เพื่อไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น
๓. ฝึกเดินถอยหลัง ให้ลองหัดเดินถอยหลังบ้าง หาพื้นที่โล่งกว้างยืนให้มั่น แล้วค่อยๆก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ ทุกก้าวจะต้องมั่นคง อย่ารีบ ก้าวที่ละก้าวๆ ควรทำให้ได้อย่างน้อย วันละ ๕๐ ก้าว แล้วค่อยๆขยับขึ้นไป
๔. ขยันดื่มน้ำ การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ คืออย่างต่ำวันละ ๘ แก้ว จะทำให้สมองดีขึ้น เพราะในเนื้อสมองของเรามีน้ำมากถึงร้อยละ ๘๕ แม้สมองจะหนักเพียงร้อยละ ๒ ของน้ำหนักตัว แต่สมองต้องการเลือดมาหล่อเลี้ยงถึงร้อยละ ๕ ของเลือดในร่างกาย การขาดน้ำจะทำให้ความสามารถทางสมองลดลง ความคิดก็จะไม่ค่อยแล่น ทำให้ซึมเศร้าได้ ซึ่งนำไปสู่อาการเครียดทางใจ ที่เป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆมากมาย ดังนั้น ควรดื่มน้ำสะอาดโดยกระจายการดื่มให้เหมาะสมตลอดทั้งวัน อย่างตื่นเช้าขึ้นมาควรดื่มหรือจิบน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย ๒ แก้ว การดื่มน้ำยังช่วยทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายได้รับการกระตุ้น จะทำให้ระบบปัสสาวะ อุจจาระและระบบประสาทพร้อมที่จะทำงานได้ดียิ่งขึ้น
๕. รับประทานอาหารเช้าอย่างราชา ร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับสารอาหารเข้าไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์สมองด้วย ดังนั้น ในมื้ออาหารเช้าบนสำรับจึงต้องให้ความพิเศษกว่าอาหารในมื้ออื่นๆ ควรปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเช้าซะใหม่ คือรับประทานอาหารให้เพียงพอ รับประทานให้หลากหลาย และให้ครบทุกหมู่
๖. ฝึกบวกเลข เวลานั่งหรือขับรถ ช่วงรถติดควรบริหารสมองด้วยการเล็งไปยังทะเบียนรถคันหน้า หรือมองไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ด้านหลัง รถแท็กซี่ แล้วค่อยๆ จับคู่ตัวเลข บวกเลขกันเข้าไป แต่ตั้งใจดูไฟจราจรกันด้วยน้า เดี๋ยวไฟเขียวโดนปรี๊นแล้ว จะหาว่าแม่เขียดไม่เตือน 555
๗. ฝึกอ่าน เวลานั่งรถผ่านสถานที่ต่างๆ ถ้าเบื่อการบวกเลขแล้วก็สามารถเปลี่ยนมาอ่านป้ายโฆษณาข้างทาง ป้ายบนทางด่วน ป้ายท้ายรถเมล์ ป้ายข้างรถเมล์ ป้ายหลังรถแท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊กแทนได้ อิอิ
๘. ฝึกนับเลขถอยหลัง ข้อนี้ชาวสวยทุกวันควรทำบ่อยๆ เริ่มจากหลักง่ายๆก่อน คือหลักสิบก่อน เช่น ๕๐...๔๙...๔๘...๔๗ ไล่ลงมาจนถึงเลข...๑ นับให้ได้ยินด้วยยิ่งดี หรือเขียนลงในกระดาษไปด้วยก็ยิ่งดีมาก พอเริ่มคล่อง จึงเริ่มขยับขึ้นเป็นหลัก ๑๐๐ หรือหลัก ๑,๐๐๐
๙. หลับตานึกแล้วจด ช่วงเวลาว่างๆ ไม่ว่าจะช่วงเวลานั่งรอ หรือรอเพื่อทำอะไรต่อไป ในกระเป๋าให้พกสมุดจดเล่มเล็กๆ กับปากกาหรือดินสอติดตัวไว้ด้วยเสมอ พอว่างปั๊บ! หยิบสมุดขึ้นมาแล้วก็ลองนึกชื่อดาราภาพยนตร์คนโปรด นักร้องในดวงใจ ชื่อเพลง ชื่อหนัง หรือชื่อพิธีกรที่ชื่นชอบ แล้วจดลงไปในสมุดบันทึก
๑๐. เล่มเกมฝึกสมอง เกมฝึกสมองในแบบต่างๆ ล้วนมีผลดีต่อการกระตุ้นสมองให้ฟื้นฟูทั้งนั้น อาทิ ฝึกทำปริศนาอักษรไขว้ ไม่ว่าภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ฝึกต่อจิ๊กซอว์รูปต่างๆ ฝึกจับผิดภาพ หันมาเล่นไพ่บ้าง เล่นหมากรุก เล่นหมากฮอสบ้าง เป็นต้น ฝึกทำกิจกรรมเหล่านี้ให้ได้อย่างน้อยวันละ ๑ ชั่วโมง
--------------
ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ? สะดวกวิธีไหน ลองหยิบนำไปปฏิบัติดูค่ะ เพราะสามารถช่วยพัฒนาสมอง ช่วยกระตุ้นไม่ให้สมองเอื่อย เฉื่อย หรือเริ่มจะเสื่อมสมรรถภาพได้ทั้งนั้น อย่ามัวแต่อ้างว่า...ไม่ว่าง ไม่มีเวลา เพราะเรามีเวลา ๒๔ ชั่วโมงเท่ากัน เดือนใหม่ ปีใหม่นี้ ถือเป็นมงคลฤกษ์ดี จัดและแบ่งเวลาปฏิบัติ และต้องสัญญากับตัวเองว่า ต่อๆไปเราจะไม่ปล่อยให้สมองนิ่งอยู่เฉยๆ สิ่งสำคัญถ้าทำได้จะส่งผลดีต่อสมองท่านในระยะยาว คือไม่ต้องหันไปพึ่งหยูกยาอีกต่อไป ใครร่วมสาบานกับแม่เขียดบ้าง ยกมือขึ้น!!!
แม่เขียด ผู้สูงวัยใช่ไก่กา