9วิธี Fit&Firm สมองและระบบประสาท

 

วันก่อนแม่เขียดเขียนบทความแนะนำเรื่อง “กินอย่างไร ให้ห่างไกล อัลไซเมอร์” ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากเพื่อนๆผู้สูงวัยส่งข้อความมาพูดคุยกันหลังไมค์หลายท่านเลยทีเดียวค่ะ

 

----♥-----♥----

 

เมื่อถึงวัยขึ้นเลขหกอย่างพวกเรา คงไม่มีอะไรน่ากังวลใจไปกว่าเรื่องความจำและระบบประสาทสัมผัสต่างๆที่ทำงานถดถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะสมองก็ไม่ต่างอะไรกับอวัยวะส่วนอื่นๆในร่างกาย ที่หากไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ก็มีสิทธิ์เสื่อมสภาพลงไปอย่างง่ายดายเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ในแต่ละวัน เจอแต่เรื่องเดิมๆ ปัญหาเดิมๆ ที่ใช้เพียงแค่ทักษะที่คุ้นชินไม่กี่อย่างก็ผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้แล้ว มีโอกาสเป็นอย่างมากที่สมองจะเริ่มชินชาจนประสิทธิภาพถดถอยลงกว่าที่ควรจะเป็นหลายเท่าตัวเลยทีเดียวค่ะ

 

ดังนั้นอย่ามัวแต่ออกกำลังกายให้เฉพาะร่างกายภายนอกเท่านั้น การออกกำลังกายให้สมองและระบบประสาทก็สำคัญมากๆไม่แพ้กันนะคะ

 

วันนี้แม่เขียดมีเคล็ดลับดีๆที่ทำได้ทันทีอย่างง่ายดายมาแนะนำเพื่อนๆทุกคนกันค่ะ ขอให้เริ่มลงมือทำจริงตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ รับรองว่าสมองและระบบประสาทของทุกคนจะตื่นตัว,มีชีวิตชีวา แถมสดชื่นแจ่มใสและมีความจำดี๊ดีเหมือนแม่เขียดในทุกๆวันอย่างแน่นอนค่ะ (แม่เขียดฝึกทำมาหลายปีแล้วการันตีผลลัพธ์ว่าดีจริงๆค่ะ)

 

----♥----♥----

 

มาลองทำกันแบบจริงจังไปด้วยกันนะคะ!!!

 

1. ฝึกทำกิจวัตรประจำวันด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด

 

นี่เป็นสุดยอดวิธีฟิตแอนด์เฟิร์มสมองแบบง่ายๆ แค่เพียงลองเปลี่ยนมาทำกิจวัตรประจำวันด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด เช่น เคยแปรงฟันด้วยมือข้างขวามาโดยตลอด นับจากนี้ก็ลองบีบยาสีฟันและแปรงฟันด้วยมือข้างซ้ายแทน ซึ่งแรกๆทุกคนก็คงทำได้อย่างไม่เป็นธรรมชาติและฝืนตัวเองน่าดู แต่เชื่อแม่เขียดเถอะค่ะว่า วิธีนี้จะช่วยทำให้สมองซีกที่ไม่ค่อยได้ออกแรง ควบคุมการทำงานของร่างกายได้ขยับเขยื้อนทำหน้าที่ของตัวเองบ้าง หมดโอกาสอยู่นิ่งๆอีกต่อไป

 

ผลพลอยได้ก็คือสมองจะเกิดการตื่นตัวและเริ่มกลับมาแข็งแรงเหมือนร่างกายได้เริ่มออกวิ่งหลังจากที่แทบไม่เคยได้ขยับตัวยังไงยังงั้นเลยค่ะ

 

2. ฝึกทำกิจกรรมประจำวันด้วยการสับขาหลอก

 

หากเราทำอะไรซ้ำซากทุกวัน สมองจะจดจำสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันโดยอัตโนมัติ และการเคลื่อนไหวของร่างกายก็จะเป็นไปด้วยความเคยชินโดยที่สมองไม่ต้องออกแรงสั่งการอะไรมากมาย ดังนั้นมาลองสับขาหลอกสมองดูบ้างดีกว่าค่ะ จากที่เคยตื่นเช้ามาอาบน้ำ เตรียมอาหารเช้า แล้วกินข้าว อาจจะลองเปลี่ยนมาทำกับข้าวก่อนจะอาบน้ำ และกินข้าวเช้าก่อนแต่งหน้าแต่งตัว เป็นต้น

 

วิธีสับขาหลอกแบบนี้ ได้ผลดีมากทีเดียวค่ะ เพราะทำให้สมองเริ่มใช้ความคิดในการจัดลำดับเหตุการณ์และต้องเริ่มสั่งการร่างกายในรูปแบบและลำดับที่ไม่ซ้ำกัน รับรองว่าสมองของคุณจะกลับมาสดชื่นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนด้วยเทคนิคง่ายๆนี้แน่นอนค่ะ แม่เขียดการันตี

 

3. มองของที่ชินตาในแนวกลับหัว

 

อีกเทคนิคหนึ่งที่อยากให้ทุกคนลองทำก็คือ จากที่เคยมองสิ่งของตามแนวเดิมมาตลอด ให้เพื่อนๆลองเปลี่ยนมุมมองด้วยการมองแบบกลับหัวบ้าง สมองก็จะต้องสื่อภาพ และเริ่มตีความตามสิ่งที่ตาเห็นได้อย่างซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นการได้ออกกำลังกายไปในตัว หมดกังวลเรื่องสมองฝ่อ หรือเฉื่อยชาได้อย่างดีเลยค่ะ

 

4. สลับที่นั่งบนโต๊ะอาหาร
สำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีที่ประจำบนโต๊ะทานข้าว การสลับที่นั่งทุกๆวัน จะช่วยให้ร่างกายต้องใช้ทักษะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เช่น ต้องเปลี่ยนทิศทางเวลาจะหันไปพูดกับใคร ต้องเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำปลาหรือพริกไทยในที่ที่ต่างไปจากเดิม

 

เทคนิคเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สมองและประสาทสัมผัสทุกส่วนได้ใช้งานมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างง่ายดายเลยล่ะค่ะ

 

5. ดมกลิ่นหอมที่เปลี่ยนไปในทุกสัปดาห์

 

ปกติเคยได้ดมแต่กลิ่นชา หรือกาแฟในทุกเช้า จนสมองจดจำกลิ่นเหล่านั้นได้อย่างขึ้นใจโดยไม่เคยได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ

 

คราวนี้แม่เขียดแนะนำให้ลองเปลี่ยนกลิ่นมากระตุ้นสมองกันหน่อยดีกว่าค่ะ

 

วิธีง่ายๆก็เพียงแค่หาน้ำมันหอมระเหยกลิ่นสดชื่น เช่น กลิ่นเปเปอร์มิ้นท์ ,กลิ่นส้ม หรือกลิ่นอะไรแปลกใหม่ที่เพื่อนๆอยากลอง มาวางไว้ที่หัวเตียง โดยให้สลับปรับเปลี่ยนกลิ่นในทุกสัปดาห์ เป็นการเปิดโอกาสให้สมองได้เรียนรู้และจดจำกลิ่นแปลกใหม่อยู่เสมอ ทำให้เกิดการตื่นตัวและเพิ่มการจดจำให้กับสมองได้เป็นอย่างดีมากๆเลยค่ะ

 

6. เปิดหน้าต่างรถรับลมและวิวที่แตกต่าง

 

ถ้าปกติในระหว่างการเดินทางไปทำงาน หรือไปท่องเที่ยว คุณเอาแต่ก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์ตลอดเวลา ก็เท่ากับว่าตีกรอบให้สมองได้เห็นและเรียนรู้ภายใต้พื้นที่แคบๆ แบบจำกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อการทำงานของสมองเป็นอย่างมากเลยค่ะ

 

ดังนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้สมองได้รับการกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าเดิม เราควรเงยหน้ามองทิวทัศน์รอบๆระหว่างทางบ้าง และหากวันไหนได้ไปเที่ยวในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ให้ลองเปิดหน้าต่างรถ รับลมเย็นสบาย กับกลิ่นโอโซนของธรรมชาติเป็นการกระตุ้นระบบประสาทบ้าง จะดีมากๆเลยล่ะค่ะ

 

7. สแกนสินค้าในซุปเปอร์มาร์เกต

 

ปกติแม่บ้านอย่างพวกเราเวลาไปเดินซื้อของในห้าง ส่วนมากมักจะสนใจแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการซื้อ ทำให้แทบไม่ได้มองดูของที่วางอยู่บนชั้นตัวอื่นๆ ครั้งต่อไปที่คุณเดินซื้อของ ลองฝึกกวาดตามองสินค้าที่วางอยู่บนชั้นให้ทั่ว ตั้งแต่ชั้นบนลงมาชั้นล่าง แล้วไล่มองจากด้านซ้ายไปขวา และขวาไปซ้าย

 

การฝึกกวาดสายตาแบบนี้จะช่วยให้คุณได้เห็นสินค้าหลากหลายชนิดมากขึ้น ส่งผลให้สมองได้ไล่เรียงข้อมูลใหม่ๆเข้าไปกักตุน เป็นการช่วยกระตุ้นสมองที่เคยทำงานเฉื่อยชาถูกปลุกให้ตื่นตัวแบบกลับมาขี้เกียจอย่างเดิมไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ

 

8. อ่านหนังสือออกเสียง

 

เพื่อนๆทราบไหมคะว่า เวลาที่เราอ่านหนังสือออกเสียงดังๆ ร่างกายจะเลือกใช้สมองส่วนที่แตกต่างจากการอ่านหนังสือในใจมารองรับกิจกรรมนี้ นั่นก็หมายความว่า โดยปกติที่เราอ่านหนังสือในใจมาโดยตลอด สมองส่วนที่จะถูกเรียกใช้งานเมื่ออ่านหนังสือออกเสียง ก็จะไม่มีโอกาสได้แสดงศักยภาพเลย

 

ดังนั้นถึงเวลาที่เราต้องสลับหน้าที่ให้สมองส่วนที่ถูกหลงลืมได้ทำงานบ้างแล้วล่ะค่ะ มาลองเริ่มฝึกกันดูตั้งแต่หนังสือเล่มหน้าเลยนะคะ

 

9. ลิ้มรสอาหารแปลก ๆ

 

สมองเราอาจจะเคยจดจำรสชาติและกลิ่นของอาหารมามากมายตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่หากเรากินแต่อาหารซ้ำเดิม ดมแต่กลิ่นเดิมๆเหมือนกันต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ความเฉื่อยชาจะเข้ามาครอบงำสมองของคุณทีละน้อย จนนานเข้าก็อาจจะเกิดอาการฝ่อ

 

ดังนั้นเราควรมากระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่รับรู้กลิ่นและรสชาติกันหน่อยดีกว่าค่ะ ด้วยการเลือกกินอาหารเมนูแปลกใหม่ที่ไม่เคยลิ้มรสมาก่อนเลยตั้งแต่เกิด เพราะการสรรหาอาหารรสชาติใหม่ๆ(ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย) จะช่วยกระตุ้นสมองของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆเลยค่ะ

 

แต่เคล็ดลับอยู่ตรงที่ว่า.....อย่าลืมดมกลิ่นอาหารก่อนรับประทานด้วยนะจ๊ะ สมองส่วนการรับรู้ทั้งกลิ่นและรสชาติจะได้ทำงานควบคู่กันไปอย่างสมดุลและมีคุณภาพค่ะ

 

----♥----♥----

 

9 วิธีที่เล่าสู่กันฟังทั้งหมดนี้ เป็นเคล็ดลับง่ายๆที่แม่เขียดทำจริงและฝึกฝนจริงมาหลายปีควบคู่ไปกับการออกกำลังร่างกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน จนคนรอบข้างมักจะชมว่าแม่เขียดมีความจำดีไม่แพ้คนหนุ่มสาวเลยทีเดียวค่ะ เพียงแค่ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเดิมๆตามที่แม่เขียดแนะนำ ก็ช่วยให้สมองมีโอกาสได้ฟิตแอนด์เฟิร์มอย่างทรงประสิทธิภาพแบบไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ (^_^)/

 

แล้วพบกันใหม่ในบทความดีๆตอนหน้าของแม่เขียดอีกนะคะ