อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ที่แสนสุขกันทุกท่านนะคะ ตื่นมาอ่านบทความของแม่เขียดเช้านี้ ได้แปรงฟันกันหรือยังน้า ?
หลายๆท่านอาจจะงงว่าการอ่านบทความของแม่เขียด เกี่ยวข้องอะไรกับการแปรงฟัน ก็เพราะวันนี้แม่เขียดมีเรื่องราวดีๆที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ “เวลาไหนไม่ควรแปรงฟัน” มาฝากกัน ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้ามไป ถึงเวลาที่จะต้องใส่ใจกันให้มากขึ้นไปพร้อมๆกับแม่เขียดแล้วล่ะค่ะ ก่อนที่สุขภาพฟันของผู้สูงวัยอย่างเราจะแย่ลงจนเกินเยียวยา
โดยพื้นฐานแล้วเราควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง แต่บางคนรักความสะอาดมากจึงชอบแถมให้บ่อยครั้งเกินไปกว่านั้น ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องเลยค่ะ เพราะอะไรเดี๋ยวตามแม่เขียดไปเฉลยให้ฟังนะคะ
----♥----♥----
การแปรงฟันก่อนรับประทานอาหารทันที
ในกรณีนี้หมายถึงการแปรงฟันแล้วไปรับประทานอาหารโดยทันที เช่น หลังตื่นนอน กิจวัตรประจำวันของทุกคนคือการอาบน้ำและแปรงฟัน ต่อมาก็ไปรับประทานอาหารเช้าทันที ซึ่งจุดนี้เองค่ะที่ควรต้องเปลี่ยน โดย ทพ.ประทีป พันธุมวนิช ได้ให้เหตุผลไว้ในนิตยสารหมอชาวบ้านว่า หากเรารับประทานอาหารหรือดื่มน้ำหลังแปรงฟันไปหมาดๆ อาหารและเครื่องดื่มนั้นจะเข้าไปชะล้างฟลูออไรด์ที่เคลือบฟันจนหมด ทำให้เราสูญเสียฟลูออไรด์ที่จะช่วยป้องกันฟันสวยๆของเราอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคฟันผุได้ง่ายมากขึ้น แต่หากรู้สึกไม่ชินกับการไม่แปรงฟันทันทีหลังตื่นนอน แม่เขียดแนะนำให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดสัก 2-3 แก้ว และกลั้วคอหลายๆครั้งแทนก็ได้ค่ะ จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ก่อนรับประทานอาหารเช้าค่ะ
การแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทันที
เนื่องจากการแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำส้ม,น้ำผลไม้,ซิตรัส,โซดา ฯลฯ ความเป็นกรดในอาหารจะทำให้เคลือบฟันของเราอ่อนแอลงมาก เมื่อแปรงฟันทันทีก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ฟันสึกหรอได้ง่ายขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้นหลังการรับประทานอาหารจึงไม่ควรแปรงฟันโดยทันที แต่ควรปล่อยให้สารในน้ำลายลดความเป็นกรดของอาหารที่รับประทานเข้าไปเสียก่อนราวๆ 30-60 นาที จากนั้นจึงค่อยแปรงฟันจะดีที่สุดค่ะ
----♥----♥----
แล้วเวลาที่ดีที่สุดของการแปรงฟันคือตอนไหน ?
รู้กันไปแล้วว่าไม่ควรแปรงฟันเวลาไหนบ้าง คราวนี้ลองมาสำรวจกันดีกว่าค่ะว่าที่เราแปรงฟันกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นเวลาที่ดีที่สุดใช่หรือไม่ ?
โดยปกติแล้วการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับผู้ที่มีเหงือกและฟันปกติดี ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับว่ามีทักษะและใช้วิธีแปรงฟันได้อย่างถูกต้องหรือเปล่า แต่ตามที่คุณหมอแนะนำ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการแปรงฟันก็คือ “ตอนก่อนเข้านอน” ค่ะเพราะในเวลาที่เรานอนหลับ ต่อมน้ำลายจะทำงานน้อยลง ทำให้การชะล้างกรดหรือจุลินทรีย์ภายในช่องปากก็จะน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งตามปกติแล้วเราจะนอนหลับพักผ่อนกันอย่างน้อยวันละประมาณ 6-8 ชั่วโมง ดังนั้นหากปล่อยให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ภายในช่องปากและซอกฟัน โอกาสที่เศษอาหารเหล่านั้นจะสร้างจุลินทรีย์และเชื้อแบคทีเรียขึ้นมาโลดแล่นอยู่ทั่วแผ่นฟันของเราก็จะยาวนานขึ้น จนเสี่ยงต่อการฟันผุมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นการแปรงฟันในเวลาก่อนนอนจึงเป็นการทำความสะอาดช่องปากให้สะอาด, ปราศจากเศษอาหารที่จะก่อจุลินทรีย์และเชื้อแบคทีเรียภายในช่องปากของเรา รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นการทำงานของเหงือก โดยเฉพาะหากแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ สารฟลูออไรด์ก็จะมีเวลาปกป้องฟันและจัดการกับเชื้อจุลินทรีย์ที่ตกค้างได้นานขึ้นด้วยนะคะ
----♥----♥----
การแปรงฟันหลังมื้ออาหารเช้า 30 นาที
อย่างที่แม่เขียดแนะนำไปตามข้างต้นนะคะว่าเราไม่ควรแปรงฟันก่อนรับประทานอาหารโดยทันที แต่ควรจะรับประทานอาหารเช้าก่อน จากนั้นอีก 30 นาทีต่อมาจึงค่อยแปรงฟัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ฟลูออร์ไรด์จากยาสีฟันที่เราใช้แปรงฟันไป ได้ใช้เวลาทำหน้าที่ปกป้องฟันของเราได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้การแปรงฟันหลังอาหารมื้ออาหารเช้าผ่านไปประมาณ 30 นาที ยังเป็นการช่วยทำความสะอาดช่องปากให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่น้อยที่สุด และไม่ก่อให้เกิดเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อแบคทีเรียมากวนใจอีกต่อไปด้วยนะคะ
----♥----♥----
อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าทุกครั้งที่เราแปรงฟัน ตัวเคลือบฟันนั้นจะถูกกัดกร่อนไปทีละนิดๆ ซึ่งต่อให้มีสุขภาพฟันที่สมบูรณ์แข็งแรงเพียงใด ก็มีโอกาสเกิดปัญหาโรคในช่องปากได้อย่างง่ายดายหากเราดูแลรักษาสภาพฟันได้ไม่ดีพอ
นอกจากเคล็ดลับการแปรงฟันให้ถูกช่วงเวลาที่เป็นวิธีร่วมด้วยช่วยกันอีกช่องทางหนึ่งแล้ว เรายังควรเลือกแปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม และแปรงฟันอย่างนุ่มนวล,เบามือ แต่ครอบคลุมให้ทั่วทั้งปากด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพฟันสวยๆสำหรับยิ้มหวานๆที่เรารัก ซึ่งวิธีการที่แม่เขียดแนะนำไปทั้งหมด ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ มาลงมือทำไปพร้อมๆกันตั้งแต่วันนี้เลยน้า ว่าแล้วแม่เขียดขอตัวไปแปรงฟันก่อนนะคะ
ด้วยรักและห่วงใยจากใจแม่เขียดเองค่า พบกันได้ใหม่ในบทความตอนหน้าน้า..